วันพฤหัสบดีที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

กาหลมหรทึก

วิพากษ์หนังสือ



หนังสือเรื่อง : กาหลมหรทึก
ผู้เขียน : ชัยรัตน์ พิพิธพัฒนาปราปต์
พิมพ์ที่ : สายธุรกิจโรงพิมพ์ บริษัทอมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิงชิ่ง จำกัด
วิพากษ์โดย : นางสาว พิจิตรา จีนากุล

          กาหลมหรทึกเป็นนวนิยายที่ได้รับรางวัลนายอินอะวอร์ด แนวสืบสวนสอบสวน ประจำปีพุทธศักราช 2557 หนังสือเล่มนี้มีเรื่องราวเกี่ยวกับ การสืบสวนสอบสวนคดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญทั่วพระนครและจังหวัดธนบุรี โดยเป็นคดีฆาตกรรมต่อเนื่องหลายคดี มีการวางแผนการนำเสนอได้อย่างรัดกุม และเล่าถึงการวางแผนการคลี่คลายคดีอย่างเป็นลำดับขั้นตอน มีการนำเสนอเป็นรูปภาพ หรือบทกลอน โดยมีเบาะแสสืบสวนจากรอยสักปริศนา 5 คำ บนตัวของผู้ตาย ที่บริเวณเหนือหน้าผาก ข้อมือ และข้อเท้าทั้งสองข้างของผู้ตาย อันเป็นจุดเริ่มต้นของคดีฆาตกรรมต่อเนื่อง ตัวละครแต่ละตัวจะค่อยๆเผยความจริงบางอย่างขึ้น ในการสืบสวนคดี มีการสอดแทรกประวัติศาสตร์ไทยเข้ามาเป็นระยะ ผู้เขียนพิถีพิถันในการเขียนเล่าเรื่องราวอย่างละเอียด และที่สำคัญผู้เขียนใช้ภาษาที่นำบทร้อยกรองกลบทมาประกอบในเรื่อง เลือกบรรยากาศและช่วงเวลาการเดินเรื่องได้อย่างโดดเด่น และใช้วรรณศิลป์ทางภาษาเล่าเรื่องได้อย่างชัดเจน

          แง่มุมที่ 1 การเดินเรื่อง ( การผูกปม คลายปม )
                   ในความคิดของผู้วิพากษ์ ผู้เขียนสามารถเดินเรื่องได้เป็นอย่างดี น่าสนใจ ลุ้นระทึกให้อ่านต่อ สามารถเขียนการผูกปมหรือขั้นตอนต่างๆในการวางแผนคดีฆาตกรรมได้อย่างยอดเยี่ยม โดยในเรื่องผู้เขียนเล่าเรื่องราวเป็นคดีฆาตกรรมต่อเนื่องถึง 5 คดี ซึ่งในแต่ละคดีมีความเกี่ยวพันเชื่อมโยงซึ่งกันและกัน จำเป็นที่จะต้องใช้ทักษะการวางแผนในการคิดคำนวณอย่างมาก สำหรับการคลายปมในตอนท้ายก็สามารถโยงใยให้ถึงคามเกี่ยวข้องของคดีฆาตกรรมอย่างแยบยล แต่ในท้ายของเรื่องการเฉลยตอนจบผู้วิพากษ์มีความเห็นว่าดูรีบร้อนจบเกินไป เมื่อเทียบกับการพยายามปูเรื่องในตอนแรก

          แง่มุมที่ 2 บทร้อยกรองกลบท ( สำนวนภาษา )
                   มีการบรรยายคำโบราณไทยอย่างกลมกลืนเป็นธรรมชาติ ผู้วิพากษ์เห็นว่าการนำศาสตร์ทางวรรณศิลป์และงานจิตรกรรมมาใช้ในการคลี่คลายคดีฆาตกรรม ทำให้นวนิยายเล่มนี้มีจุดเด่นที่แตกต่างจากนวนิยายเล่มอื่นๆ มีการใช้สำนวนภาษาที่สละสลวย

          แง่มุมที่ 3 การบรรยาย ลุ้นระทึก สยองขวัญ
                   ผู้เขียนสามารถบรรยายเล่าเรื่องได้เห็นภาพชวนขนหัวลุก บรรยายได้ถึงความน่าตื่นเต้น ความสยองขวัญได้เข้าถึงอารมณ์ ลุ้นระทึกกับเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น

          แง่มุมที่ 4 ประวัติศาสตร์
                   ในเรื่องมีการอ้างอิงถึงประวัติศาสตร์ไทยไว้หลายจุด สอดแทรกเข้ากับเนื้อหาได้เป็นอย่างดี ทำให้ได้ทราบถึงประติศาสตร์หลายๆอย่าง เช่น ประวัติศาสตร์ย่านสำเพ็ง ประวัติศาสตร์โรงพยาบาลศิริราช เป็นต้น แต่ในความคิดของผู้วิพากษ์เห็นว่าการนำเอาประวัติศาสตร์เข้ามามากเกินไปอาจทำให้ดูน่าเบื่อ บางทีก็อ่านข้ามๆไป แต่ก็ไม่ได้ทำให้นวนิยายเล่มนี้น่าอ่านน้อยลงเลย

          แง่มุมที่ 5 ตัวละคร
                 บทบาทตัวละครผู้เขียนสามารถเขียนบรรยายบุคลิกลักษณะของแต่ละตัวละครได้เชื่อมโยงกับเนื้อเรื่อง มีการวางแผนและคิดว่าควรมีลักษณะบุคลิกเหมาะสมกับสถานการณ์ไหนหรือเหมาะสมกับตัวละครตัวไหนได้เป็นอย่างดี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น