วิพากษ์หนังสือ
หนังสือเรื่อง :
โลกสวยที่น้ำใส
ผู้เขียน :
ชัยกร หาญไฟฟ้า
พิมพ์ที่ :
กรุงเทพฯ นานมีบุ๊คส์พับลิเคชั่นส์
วิพากษ์โดย :
นางสาว สุภลักษณ์ ไม้ส้มซ่า
เด็กชายเขตแดนติดตามพ่อผู้เป็นวิศวกรไปทำงานก่อสร้างสนามบินที่หมู่บ้านน้ำใส
ทำให้เด็กชายเขตแดนต้องเข้าเรียนภาคฤดูร้อนที่โรงเรียนประจำชุมชนบ้านน้ำใสเพื่อใช้เวลาว่างในช่วงปิดเทอมให้คุ้มค่า
เด็กชายเขตแดนสนิทสนมกับพ่อเขามากเพราะเขาได้เสียแม่ไปเมื่อ3ปีก่อน
แม่ของเขตแดนเป็นคนรักต้นไม้ถึงแม้บ้านของเขตแดนจะอยู่ในกรุงเทพเป็นย่านที่แออัดแต่แม่ของเขาก็ปลูกต้นไม้จัดเป็นสวนไว้บนดาดฟ้า
ทำให้เขตแดนได้ซึมซับธรรมชาติจากสวนดาดฟ้าของแม่
ด้วยความที่เขตแดนสนิทกับพ่อมากจึงได้ตามพ่อไปดูสถานที่ก่อสร้างสนามบิน
และเขตแดนก็ได้รู้ว่าการใช้พื้นที่ของหมู่บ้านน้ำใสก่อสร้างสนามบินเกิดปัญหาขึ้นมากมายจากกลุ่มคนที่ต่อต้านการสร้างสนามบิน
และกลุ่มคนที่สนับสนุนให้มีการก่อสร้างสนามบิน
เขตแดนจึงได้เสนอกับครูผู้สอนที่เป็นแกนนำกลุ่มต่อต้านว่าให้มีการประชุมหาข้อสรุปกับบริษัทของพ่อเขาและเขาก็ได้เชิญแกนนำกลุ่มที่สนับสนุนให้มาเข้าร่วมประชุมหาข้อสรุปพร้อมกันโดยที่การประชุมนั้นต้องเป็นไปอย่างสงบไม่มีปากเสียงกัน
แต่สุดท้ายก็ได้ข้อสรุปว่าบริษัทของพ่อเขตแดนสามารถดำเนินการก่อสร้างสนามบินได้โดยที่ต้องส่งผลกระต่อธรรมชาติและชีวิตความเป็นอยู่ของคนในหมู่บ้านน้ำใสน้อยที่สุดหรือไม่ส่งผลกระทบเลยก็ยิ่งดีและต้องฟื้นฟูธรรมชาติและระบบนิเวศให้กลับมาสมบูรณ์ที่สุดเท่าที่จะทำได้
สุดท้ายแล้วการสร้างสนามบินในหมูบ้านน้ำใสก็ดำเนินไปด้วยดีพร้อมกับมีธรรมชาติที่สมบูรณ์ขึ้นรอบบๆบริเวณสนามบินมีความเจริญเข้ามามากขึ้นแต่ธรรมชาติของชาวบ้านก็ยังคงอยู่
แง่มุมที่1
การเดินเรื่อง
ผู้เขียนสามารถเดินเรื่องได้ดีโดยใช้ตัวละครเด็กชายเขตแดนในการสื่อให้ผู้อ่านคิดตามได้และมีความตระหนักถึงธรรมชาติที่สวยงามที่ต้องถูกทำลาย
ผู้เขียนยังได้ถ่ายทอดอารมณ์และความรู้สึกของการใช้ชีวิตระหว่างคนในเมืองใหญ่และคนในชนบทให้เห็นถึงความแตกต่างในการใช้ชีวิตและความหวงแหนธรรมชาติโดยที่ไม่ยอมให้มีการก่อสร้างสนามบิน
แง่มุมที่2
บทร้อยกรองกลบท (สำนวนภาษา)
ผู้วิพากษ์คิดว่าผู้เขียนใช้สำนวนภาษาในการเขียนได้ดีอ่านง่ายอ่านเข้าใจ
ไม่มีการใช้สำนวนไทยโบราณเข้ามาเขียนจึงทำให้นวนิยายเล่มนี้เหมาะสำหรับเด็กวัยเรียนมากกว่า
แง่มุมที่3
การบรรยาย
ผู้เขียนให้ตัวละครเด็กชายเขตแดนเป็นตัวส่งผ่านความคิดความรู้สึกมาให้ผู้อ่านทำให้ผู้วิพากษ์อ่านแล้วรู้สึกคิดตาม
รู้สึกเข้าใจในการที่ไม่อยากให้พ่อทำลายธรรมชาติที่สวยงามของหมู่บ้านน้ำใส
ดังนั้นผู้วิพากษ์คิดว่าผู้เขียนบรรยายได้เข้าถึงอารมณ์ของความรู้สึกที่จะอยากจะรักษาธรรมชาติไว้ไม่ให้มนุษย์ทำลาย
แง่มุมที่4
ประวัติตัวละคร
ในเรื่องมีการเล่าถึงประวัติของตัวละครอบครัวของเด็กชายเขตแดนที่ต้องเสียแม่ที่มีความรักต้นไม้และธรรมชาติสีเขียว
และแม่ของเด็กชายเขตแดนได้ปลูกฝังความรักธรรมชาติไว้ให้ลูกชายก่อนจะจากไปเพราะโรคร้ายประวัตินี้ทำให้สอดแทรกเข้าเนื้อเรื่องได้เป็นอย่างดีเพราะตัวละครหลักคือเด็กชายเขตแดนรักธรรมชาติเหมือนแม่แต่ก็เข้าใจพ่อผู้เป็นวิศวะกร
แต่ในความคิดของผู้วิพากษ์คิดวาเด็กชายเขตแดนเป็นเด็กฉลาดชอบคิดกล้าถามกล้าแสดงออกทางความคิดเป็นเด็กที่โตเกินไวทำให้ผู้วิพากษ์หรือผู้ที่ได้อ่านต้องคิดตามตลอดเวลาอ่านทำให้ไม่น่าเบื่อเมื่อได้อ่าน
แง่มุมที่5
ตัวละคร
ตัวละครในเรื่องผู้เขียนบรรยายได้ดีวางตัวละครได้ดีเชื่อมโยงกับเนื้อเรื่องมีปัญหาที่เกิดขึ้นของเนื้อเรื่องก็ใช้ตัวละครต่างๆที่วางไว้มาเสนอความคิดต่างๆได้ดี
จึงทำให้นวนิยายเรื่องนี้มีการวางแผนโดยใช้ความคิดในการแก้ไขปัญหาที่ขัดแย้งระหว่างตัวละครกลุ่มหนึ่งกับอีกกลุ่มหนึ่งได้ดี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น