วิพากษ์หนังสือ
หนังสือเรื่อง :
น้ำสูง
ผู้เขียน :
จัตวาลักษณ์
พิมพ์ที่ : พงษ์วรินการพิมพ์
วิพากษ์โดย :
นางสาว ณาริษา กระจอนกลิ่น
เรื่องน้ำสูงเป็นเหมือนการอ่านบันทึกประวัติศาสตร์หน้าหนึ่งของไทย
เหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ปีพ.ศ 2554 ในบางส่วนถูกนำเสนอผ่านตัวละครหลายตัว
แม้ผู้เขียนจะไม่สามารถเก็บรายละเอียดทุกอย่างได้ครบ
ไม่ได้นำเสนอต้นสายปลายเหตุและการแก้ไข แต่ก็มีความน่าสนใจหลายแง่มุม
อ่านหนังสือเล่มนี้เหมือนได้รื้อฟื้นคงามหลังที่เจ็บปวด โหดร้าย
และการวางแผนแก้ไขสถานการณ์ต่างๆ และรวมไปถึงความหวังและการรับรู้ถึงน้ำใจของเพื่อนมนุษย์
ทำให้เกิดความหวังและความสุขแม้ในช่วงทุกข์ยาก
น้ำสูง
นำสถานการณ์มหาอุทกภัยเมื่อสี่ห้าปีที่ผ่านมานี้มาเป็นฉากและเนื้อเรื่องด้วยการนำเสนอแนวคิดว่าแม้น้ำท่วมจะทำให้คนทุกข์ยากแสนสาหัส
แต่ท่ามกลางปัญหาและการวางแผนเอาตัวรอดก็มีเรื่องราวดีๆ
ที่อาจเปลี่ยนจิตใจมนุษย์ให้เห็นอกเห็นใจกัน
ผู้เขียนไม่ใช่บรรยายเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่แต่ผู้เขียนมีความสามารถในการผูกโครงเรื่องให้ชวนติดตาม
ตื่นเต้นและคาดเดาเหตุการณ์ไม่ถูก มีทั้งเรื่องราวโลดโผน เรื่องผจญภัยแบบมมหัศจรรย์และปัญหาของผู้คนในยามวิกฤต
การพลัดพรากและการตามหาซึ่งแสดงถึงความรักและความผูกพันในครอบครัว
ความแตกต่างทางฐานะชนชั้น เรื่องราวรักแรกพบในยามวิกฤต ทั้งหมดผู้เขียนนำมาผสมผสานกันอยู่ในเรื่องราวเหตุการณ์เดียวกัน
จึงกล่าวได้ว่านวนิยายเรื่องน้ำสูง มีหลายรส หลายอารมณ์ และหลายแนวรวมอยู่ด้วยกัน
ผู้เขียนเน้นย้ำแนวคิดสำคัญในท่ามกลางวิกฤต
มนุษย์อาจได้พบความดีงามในจิตใจของเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ความรัก
ความเอื้ออาทรต่อกีนของมนุษย์จะทำให้คนที่มองโลกในแง่ร้ายอาจพบแง่งามของความเป็นมนุษย์ได้
แง่มุมที่
1 การเดินเรื่อง
การดำเนินเรื่องผูกปมให้ชวนติดตาม
ผู้เขียนมีความสามารถในการเล่าเรื่องและผูกเรื่องราวหลายรส
หลายแนวเข้าเป็นเรื่องเดียวกันได้อย่างน่าสนใจและชวนติดตาม ผู้เขียนเล่าแง่มุมอันงดงามในความโหดร้ายของภัยธรรมชาติมาถ่ายทอดผ่านนวนิยายชีวิตได้อย่างลุ่มลึก
และยังไม่ทิ้งความตื่นเต้นเร้าใจอันเป็นเอกลักษณ์
แต่ในท้ายของเรื่องผู้วิพากษ์มีความเห็นว่าการจบแบบเร็วเกินไป
โดยที่เนื้อเรื่องตอนแรกค่อยๆ วางเนื้อเรื่องอย่างละเอียดทุกฉากเข้าด้วยกัน
แต่พอตอนท้ายกลับจบด่วนสรุปเกินไป
แง่มุมที่
2 บทร้อยกรองกลบท ( สำนวนภาษา )
สำนวนภาษาอยู่ในระดับดี
โครงเรื่องชัดเจนทำได้ตามจุดหมาย
สามารถนำข้อมูลประสบการณ์น้ำท่วมมาแปรเป็นสถานการณ์ให้มีทั้งเนื้อหาเนื้อเรื่องและมิติชีวิตได้อย่างมีจุดหมายในเชิงสร้างสรรค์สังคม
แง่มุมที่
3
การบรรยาย
การที่ผู้เขียนใช้ตัวละครเอิร์ธ
เด็กชายวัยประถมที่มีความรักและความเชื่อ ความศรัทธาในครอบครัวของเขาเอง
ผู้ที่มองแง่ดีมาตลอดต้องมาตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายกับชายชรา อายุราว 60 กว่าปีที่มองโลกในแง่ร้ายมาโดยตลอด
ผู้เขียนบรรยายตัวละครทั้งสองตัวนี้ได้อย่างมีเหตุมีผลทำให้ฉากที่กล่าวถึงทั้งสองตัวละคร
มีความลุ้นและน่าติดตามตลอดเวลา
แง่มุมที่
4
ประวัติศาสตร์
ในเรื่องมีการอ้างอิงนำสถานการณ์น้ำท่วมในปี
พ.ศ 2554 ในบางส่วนถุกนำเสนอผ่านตัวละครหลายตัว เช่น
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จังหวัดปธุมธานีอำภอสามโคก ซึ้งเป็นจุดสำคัญของเรื่อง
ถึงผู้เขียนจะไม่ได้นำเสนอต้นสายปลายเหตุและการแก้ไขปัญหา
แต่ในควาคิดของผู้วิพากษ์ก็ยังมีความน่าสนใจในหลายมุม
แง่มุมที่
5
ตัวละคร
บทบาทตัวละครผู้เขียนสามารถเขียนบรรยายบุคลิกลักษณะของตัวละครได้เชื่อมโชงกัน
เนื้อเรื่องมีการเขียนบรรยายตัวละครแต่ละตัวว่ามีบุคลิกที่เหมาะสมกับสถานณ์ในตอนไหนหรือเหมาะสมกับตัวละครไหนได้อย่างดี
พออ่านแล้วจินตนาการเกิดภาพตามผู้เขียนบรรยาย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น